ล่องเรือสำราญ Costa neoRomantica ญี่ปุ่น-เกาหลี ตอนที่ 3 : เที่ยว Kanazawa ชมสวนสวยติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นและ Kanazawa castel แวะกินซูชิร้านดังที่ Omi-cho ร่วม GALA NIGHT บนเรือ พบกัปตันตัวเป็นๆ (ทริปล่องเรือสำราญ)

วันที่ 3 ของการล่องเรือสำราญ Costa neoRomantica เที่ยวญี่ปุ่น-เกาหลี เป้าหมายของวันนี้เรือจะจอดเทียบท่าเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) คานาซาวะ (Kanazawa) เป็นเมืองหลวงของจังหวัด Ishikawa ศูนย์กลางของภูมิภาค Hokuriku เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ มีทั้งสวนสวยติดอันดับ 1 ใน 3 สวนสวยที่สุดในญี่ปุ่น และมีปราสาทเก่า Kanazawa castle และตั้งใจว่า มาเมืองริมทะเลแบบ Kanazawa จะต้องไปลิ้มลองซูชิที่ตลาดดังอย่าง Omi-cho ให้ได้ และที่สำคัญคืนนี้จะเป็นคืนพิเศษ มีการจัด GALA NIGHT บนเรือ วันนี้น่าจะเป็นอีกวันของทริปล่องเรือสำราญครั้งนี้ที่น่าสนุก

วันนี้เรือจะจอดเทียบท่าคานาซาวะ (Kanazawa Port) ตอน 7:00น. ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ ชั้น 10 เปิดบริการตั้งแต่ 05:30น. – 08:30น. และห้องอาหาร a la cart ที่ชั้น 8 ให้บริการตั้งแต่ 06:00น.-08:00น. เช้านี้เลยเลือกกินมื้อเช้าที่ห้องอาหารบุปเฟ่ต์เหมือนเดิม จะได้ไม่เสียเวลา และจะได้ลงจากเรือตอน 07:00น. เพื่อจะได้มีเวลาไปเที่ยว Kanazawa กัน

ตอนนี้เป็นเวลา 07:00น. ได้เวลาเรือเทียบจอดที่ท่าเรือคานาซาวะ (Kanazawa Port) พอลงจากเรือจะมีจุดจำหน่ายตั๋ว Shuttle Bus ไปสถานีรถไฟคานาซาวะ (Kanazawa Station) ค่ารถ ไป-กลับ คนละ 500 เยน (อย่าลืมเก็บตั๋วไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ขึ้นรถขากลับ) หลังจากซื้อตั๋วแล้วก็เดินไปตามทางไปขึ้นรถ Shuttle Bus ที่จุดจอดรถไม่ไกล มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตั๋วก่อนขึ้นรถ

นั่ง Shuttle Bus จากท่าเรือคานาซาวะ (Kanazawa Port) ไปสถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที

สถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) เป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) มีบริการทั้งรถไฟ JR และ Shinkansen (รถไฟสายด่วนพิเศษ) ที่ประตูทางเข้าทิศตะวันออกของสถานี Kanazawa มีการสร้างโดมแก้ว เรียกว่า Motenashi Dome แปลว่า ยินดีต้อนรับ เมื่อเดือนมีนาคม 2015 โดมแก้วที่สร้างขึ้นมีลักษณะคล้ายร่มขนาดใหญ่ โดมแห่งนี้มีประตูไม้เรียกว่า Tsuzumi-mon ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องดนตรีพื้นบ้านญี่ปุ่นเรียกว่า tsuzumi (กลองขนาดเล็ก) เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และมีนาฬิกาน้ำ บอกเวลาอยู่ใกล้กัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวมาก

สถานี คานาซาวะ (Kanazawa Station) : ทริปล่องเรือสำราญ Costa neoRomantica เที่ยวคานาซาวะ (Kanazawa)

จากที่ได้วางแผนเที่ยวเมืองคานาซาวะไว้ ว่าจะไปเที่ยว Kenrokuen Garden สวนสวยของเมืองคานาซาวะ และไปชมปราสาทคานาซาวะ (Kanazawa Castle) และไปตลาดปลา Omi-cho จุดขึ้นรถให้ออกทางประตูทิศตะวันออก (East Gate)

ทำให้ Little Angel และผองเพื่อนตัดสินใจเลือกซื้อตั๋วแบบ One Day Pass เพื่อจะได้เที่ยวแบบคุ้มค่า ขึ้นลงรถกี่ครั้งก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ใช้ได้ภายใน 1 วัน 

One Day Pass ผู้ใหญ่ คนละ 500 เยน เด็ก คนละ 250 เยน

ได้ตั๋วแล้ว ก็ดูเวลารถมา ปรากฎว่า ยังพอมีเวลา จึงเดินสำรวจรอบๆ สถานีรถไฟคานาซาวะ (Kanazawa Station) สักหน่อย

Kanazawa Loop Bus มี 2 เส้นทาง คือ

• สายสีส้ม หรือ Kanazawa Loop Bus (Right Loop)
• สายสีเขียว หรือ Kanazawa Loop Bus (Left Loop)

ทั้ง 2 เส้นทางจะเริ่มจาก สถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) วิ่งวนเป็นวงกลม (วนซ้าย-วนขวา) แล้วกลับมาสิ้นสุดที่สถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station)

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด

ถ้ามา Kanazawa แล้วไม่ได้มาดู ประตูไม้ Tsuzumi-mon เหมือนมาไม่ถึง ซึ่งประตูไม้ Tsuzumi-mon โครงสร้างเป็นไม้ขนาดใหญ่ขัดกันไปมามีลักษณะคล้ายกลองญี่ปุ่นที่เรียกว่า tsuzumi กลองโบราณที่ใช้ประกอบการแสดงละครโนห์ (โนห์ คือ การแสดงพื้นบ้านที่เป็นที่นิยมของชนชั้นสูง)

ประตูไม้ Tsuzumi-mon สร้างเสร็จเมื่อปี 2005 ออกแบบและก่อสร้างโดย Todec Inc.General Contractor, Chisansya , Okagumi Corporation และ Honjin Corporation เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) ยิ่งใหญ่ สวยงาม อลังการมาก

ด้านหน้าจะมีนาฬิกาน้ำ แสดงตัวเลขบอกเวลาและคำต้อนรับภาษาต่างๆ สร้างความตื่นเต้นและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้คนที่เดินผ่านไปมา

เดินชมรอบๆ สถานีรถไฟคานาซาวะ (Kanazawa Station) จนใกล้ถึงเวลารถมา ก็ไปยืนตามจุดขึ้นรถ Loop Bus ดูจากตัวเลขที่พื้น แต่ไม่ต้องกลัวจะงง เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำว่า จะต้องยืนรอรถตรงไหน

การเดินทางไป Kenrokuen Garden และ Kanazawa Castle – – ใช้ Loop Bus สามารถลงที่ป้าย RL7 หรือ LL9 จะใกล้ทางเข้า (Kenrokuen Garden จะมีทางเข้าทั้งหมด 7 ประตู)

จากป้ายรถที่ลง เดินต่อมาตามทางไม่ไกล จะมีป้ายบอกทางมายังจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชม Kenrokuen Garden และ Kanazawa Castle สามารถซื้อตั๋วแบบเข้าชมที่ใดที่หนึ่ง หรือซื้อแบบ Common เพื่อเข้าชมทั้ง 2 ที่ได้

ค่าเข้าชม

• ค่าเข้าชม Kenrokuen Garden ผู้ใหญ่คนละ 310 เยน เด็ก คนละ 100 เยน
• ค่าเข้าชม Kanazawa Castle  ผู้ใหญ่คนละ 310 เยน เด็ก คนละ 100 เยน
• ค่าเข้าชมแบบ Common (Kenrokuen Garden และ Kanazawa Castle)  ผู้ใหญ่คนละ 500 เยน

Kenrokuen Garden เปิด-ปิดทำการ

• 1 มีนา – 15 ตุลา เปิด 07:00-18:00น.
• 16 ตุลา – สิ้นเดือนกุมภา  เปิด 08:00-17:00น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด

สวน Kenrokuen หรือ Kenrokuen Garden สวนสวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น (อีก 2 สวยสวย คือ Mito’s Kairakuen และ Okayama’s Korakuen)

Kenrokuen Garden เป็นสวนสมัยเอโดะ (Edo Period 1603-1868) ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดทางตอนกลางของ Kanazawa ใกล้กับปราสาท Kanazawa มีพื้นที่ทั้งหมด 11.4 เฮกตาร์ เมื่อปี 1676 The fifth lord Maeda Tsunanori ได้ย้ายบ้านมาที่ปราสาท และสร้างบ้านสำหรับการพักผ่อนหลังใหม่ขึ้น เรียกว่า “Renchi-ochin” และเริ่มปรับปรุงภูมิทัศน์ของสวน เรียกว่า “Renchi-tei”

จนกระทั่ง วันที่ 7 พฤษภาคม 1874 Kenrokuen Garden ได้เป็นสวนสาธารณะ ต่อมา วันที่ 8 มีนาม 1922 เป็น National Site of Scenic Beauty จนกระทั่งล่าสุด 20 มีนาคม 1985 ถูกจัดให้เป็น National Site of Special Scenic Beauty

ต้นสน Karasakinomatsu 

กลุ่มต้นสน Karasakinomatsu ทีตั้งตระหง่านกลางสวน เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป Lord Nariyasu ที่ 13 ได้เมล็ดพันธุ์มาจาก Karasaki ใกล้ทะเลสาบ Biwa ในวันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกละปี จะมีการติดตั้ง Yukizuri เพื่อป้องกันกิ่งก้านของต้นสนไม่ให้ได้รับความเสียหายจากหิมะจำนวนมากในฤดูหนาว หิมะที่ปกคลุมกลายเป็นหลังคาที่โดดเด่นสวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเมืองคานาซาวะ (Kanazawa)

เดินชมสวนเพลินๆ ธรรมชาติช่างสวยงามและสงบ ไม่แปลกใจเลยที่ Kenrokuen Garden ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสวยที่สวยที่สุด 1 ใน 3 สวนสวยของญี่ปุ่น แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สวนสวย แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่นี่ นั่นคือ การลิ้มลองไอศกรีมแผ่นเปลวทองคำ

ไอศกรีมแผ่นเปลวทองคำ 

มีจำหน่ายที่ร้านค้าด้านนอก Kenrokuen Garden เป็นไอสกรีมที่เคลือบด้วยแผ่นทองคำเปลว ที่ทำจากทองคำแท้ เป็นของหวานที่ล้ำค่า เป็นของขึ้นชื่อของเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) มีให้เลือกหลายแบบ แต่ที่ได้รับความนิยมมาก คือ

• ไอศกรีมแผ่นเปลวทองคำ ราคาแท่งละ 1,000 เยน
• ไอศกรีมแผ่นเปลวทองคำกับแพลตตินั่ม ราคาแท่งละ 2,000 เยน

มาถึงทั้งทีมีหรือจะพลาด ลองกันไปถ้วนหน้า รสชาติก็ คือ ไอศรีมวนิลา ที่เคลือบมาด้วยแผ่นเปลวทองคำ แต่ที่พิเศษ คือ เวลากินแผ่นทองจะติดริมฝีปาก มองหน้ากันแล้วขำกันไปมานั่นเอง

หลังจากเดินเล่นรอบ Kenrokuen Garden วนมาออกทางประตู Ishikawamon ซึ่งเป็นประตูที่ใกล้กับทางเจ้าปราสาทคานาซาวะ (Kanazawa Castle) เนื่องจากซื้อตั๋วแบบ Common ไว้ (ตั๋วแบบเหมา เข้าได้ทั้ง Kenrokuen Garden และ Kanazawa Castle ราคา 500 เยน) จึงไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่

ปราสาทคานาซาวะ หรือ Kanazawa Castle

สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1583 โดยตระกูล Maeda ผู้ปกครองเขต Kaga (ปัจจุบัน คือ เขต Ishikawa และ Toyama) Kanazawa Castle ถือว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดปราสาทหนึ่งของญี่ปุ่น ภายใน Kanazawa Castle ประกอบด้วย อาคารหลักๆ จำนวน 3 อาคาร คือ

• Hishi Yagura
• Hashizume-mon Tsuzuki Yagura
• Gojukken Nagaya

ทั้งหมดเคยถูกเผาแต่ได้มีการบูรณะซ่อมแซมกันหลายครั้ง ยกเว้นประตูปราสาทอิชิคาว่า (Ishikawa-mon Gate) ที่ไม่เคยถูกไฟไหม้ มีสภาพมาจนถึงปัจจุบัน ตัวปราสาทมีคูน้ำล้อมรอบ มีระบบป้อมปราการที่มีช่องสำหรับยิงปืนจากกำแพง มีความโดดเด่นตรงหลังคาที่ทำจากแผ่นกระเบื้องสีขาวที่ทำจากตะกั่ว ตัวกำแพงสร้างจากปูนสีขาวประดับด้วยกระเบื้อง ทำให้ปราสาทดูงดงามยิ่งนัก

เมื่อปี 2001 ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม Kanazawa Castle อย่างเป็นทางการ

ชมทั้งสวน ชวนดูปราสาทสวยกันมาค่อนวัน เริ่มหิว มาเมือง Kanazawa ทั้งที ต้องไม่พลาดแวะไปตลาดปลา หาซูชิอร่อยๆ เป็นมื้อเที่ยงก่อนกลับขึ้นเรือ มุ่งหน้าไปตลาดปลาชื่อดังของเมืองนี้ “Omi-Cho Market”

 Omi-Cho Market ตลาดปลาชื่อดังของ Kanazawa 

ตลาด Omi-cho หรือ Omi-Cho Market ในตลาดบรรยากาศคึกคัก แต่ไม่หนาแน่นมา ร้านค้ามีหลากหลายประเภท มีทั้ง อาหารทะเล, ผักสด, ผลไม้, อาหารปรุงสำเร็จ หรือแม้แต่ของแห้ง ของฝากก็มี เดินเพลินช้อปเพลินมาก

การเดินทางมา Omi-Cho Market – – ใช้ Loop Bus สามารถลงที่ป้าย RL14 หรือ LL1

ที่ Omi-Cho มีร้านซูชิชื่อดังของเมือง Kanazawa ชื่อร้าน “MORI MORI SUSHI”

ทางไปร้านหาไม่ยาก เดินจากทางเข้า Omi-Cho เลี้ยวซ้ายที่ซอยเล็กซอยแรก หัวมุมซอย เป็นร้านขายปลาไหลย่าง เดินตรงมาเรื่อยๆ ร้าน “MORI MORI SUSHI” อยู่ทางซ้ายมือ ป้ายสังเกตุเห็นชัดเจน

ขั้นตอนการสั่งอาหารที่ร้าน “MORI MORI SUSHI” ไม่ยาก

1. หลังจากเข้าร้านมาจะมีพนักงานพาไปนั่งโต๊ะ
2. การสั่งอาหาร แต่ละโต๊ะจะมีจอ (ทัชสกรีน) คุณสามารถกดสั่งอาหารจากจอได้ตามต้องการหรือเลือกหยิบอาหารจากสายพานที่ไหลผ่านมาตามโต๊ะ
3. ได้เวลารับประทานให้สมใจอยาก
4. กินอิ่ม ก็กดเรียกพนักงานมาเช็ครายการอาหาร พนักงานจะใช้เครื่องมือ Scan จาน (จานแต่ละสี ราคาจะต่างกัน) เมื่อใช้เครื่อง Scan จานจนครบทุกจาน พนักงานจะ Print ใบสำหรับจ่ายเงินให้คุณ
5. นำไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

หลังจากทั้งเที่ยว ทั้งกิน และช้อปปิ้งของติดไม้ติดมือเรียบร้อย ก็เตรียมตัวกลับขึ้นเรือ จาก Omi-Cho Market คุณสามารถ นั่ง Shuttle Bus จากฝั่งตรงข้าม Omi-Cho Market (ป้ายอยู่ใกล้ร้าน Starbuck)  มาลงที่สถานีรถไฟคานาซาวะ (Kanazawa Station) แล้วใช้ตั๋ว Shuttle Bus ที่ซื้อจากท่าเรือ นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ Shuttle Bus ขึ้นรถกลับมายังท่าเรือคานาซาวะ (Kanazawa Port)

GALA NIGHT ON CRUISE งานเลี้ยงรับรองพิเศษ 

อีกหนึ่งค่ำคืนที่สุดแสนประทับใจบนเรือสำราญ Costa neoRomantica การจัด Gala Night โดยส่วนใหญ่จะเป็นคืนที่ 2 หรือคืนสุดท้าย ของการพักบนเรือ, หากมีการเปลี่ยนแปลง สามารถเช็ควัน, เวลา และสถานที่ได้จากเจ้าหน้าที่บนเรือ หรือเอกสารตารางกิจกรรมของทางเรือที่เรียกว่า “TODAY” ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางเรือจะจัดส่งถึงห้องพักทุกท่านในแต่ละวัน

อย่าเพิ่งเครียดว่า จะเตรียมตัวอย่างไรไปร่วมงาน Gala Night มีคำแนะนำที่ดูแล้วเหมือนยาก แต่จริงทางเรือก็ไม่ได้เคร่งครัดมาก เพื่อความสำราญของนักท่องเที่ยว แต่ถ้าจะให้ดูไม่แตกต่าง ก็แต่งตัวสวยงามไปร่วมงานกันอย่างสนุกสนานกัน

การแต่งกายสำหรับร่วมงาน Gala Night
สุภาพบุรุษ : ชุดสูทพร้อมเนคไท (หรือทักซิโด้ แต่ไม่บังคับ) รวมๆ ก็คือแต่งกายสุภาพ
สุภาพสตรี : ชุดราตรีสั้น/ยาว หรือสำหรับท่านที่ไม่ถนัดใส่กระโปรง ท่านสามารถใส่กางเกงผ้าและเสื้อเชิ้ตแบบสุภาพได้ 

ปล. วันงานเพื่อนลืมเตรียมรองเท้าหุ้มส้นไป ก็สวมรองเท้าผ้าใบกับชุดแซ็กสบายๆ ไปร่วมงาน Gala Night ก็ไม่มีใครตำหนิหรือไล่ออกจากงาน

สรุปโดยรวมคือ อย่าใส่รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้น เสื้อยืด แค่นี้ก็ไปร่วมงาน Gala Night ได้สบาย

ในงาน Gala Night จะมีการร้องเพลงเล่นดนตรีสดๆ อย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวร่วมเต้นรำกับลูกเรือเท้าไฟทั้งหญิงและชาย ต่างคอยโค้งคำนับ เชื้อเชิญให้ผู้ร่วมงานออกมาขยับแข้งขยับขาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มสนุกสนาน สร้างสีสันให้ค่ำคืน Gala Night มีชีวิตชีวา สำราญสมกับการล่องเรือสำราญ

แต่ไฮไลท์ของค่ำคืนนี้ คือ การโชว์ตัวของกัปตันเรือและคณะลูกเรือผู้ควบคุมงานต่างๆ บนเรือ ได้ปรากฎกายต่อหน้าเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวเรือสำราญทริปนี้ และจิบแชมเปญฉลองความสำเร็จในการล่องเรือสำราญเที่ยวในครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานและส่งเสียงขอบคุณกัปตันเรือกันอย่างกึกก้อง

หลังจากเสร็จในส่วนพิธีการเฉลิมฉลอง ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล ได้เวลาเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวเท้าไฟได้เริงร่า โชว์ลีลาเท้าไฟบนฟลอร์เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน

แต่ไหนๆวันนี้ Little Angel ก็แต่งชุดราตรีแบบจัดเต็มแล้ว ก็ขอปิดท้ายวันนี้ด้วยการดินเนอร์หรูกับเมนูพิเศษสำหรับคำคืน Gala (Gala Menu) ที่ห้องอาหาร a la cart ชั้นเดียวกับห้องจัดงาน Gala Night เป็นการปิดท้ายวันนี้แบบครบสมบูรณ์มากๆ (เลื่อนชมด้านล่างให้ครบนะคะ เมนูอาหารน่ากินทั้งนั้น)

แล้วพรุ่งนี้เจอกันใหม่ที่ ปูซาน เรากำลังจะล่องเรือข้ามประเทศจากญี่ปุ่น ไปเกาหลี ลงจอดที่ท่าเรือปูซาน

ตอนหน้าห้ามพลาด มีวิธีเตรียมรับมือ ตม. เกาหลี ใครที่ไม่ค่อยเดินทางบ่อย อาจจะไม่ได้เข้าเกาหลี ดังนั้นจึงมีเทคนิคดีดีที่เจอในทริปนี้มาฝาก จะได้ไม่พลาดลงเที่ยวปูซานกัน

ติดตามรีวิวตลอดทริปได้ที่ลิ้งด้านล่างค่ะ :

• ตอนที่ 1 : ล่องเรือสำราญ(บานใจ) กินหนัก พักเต็ม (รีวิวล่องเรือละเอียดยิบ)
• ตอนที่ 2 : ก้มโค้ง ดูวิวสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น Amanohashidate Maizuru
• ตอนที่ 3 : เที่ยว Kanazawa ชมสวนสวยติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นและ Kanazawa castel แวะกินซูชิร้านดังที่ Omi-cho ร่วม GALA NIGHT บนเรือ พบกัปตันตัวเป็นๆ
• ตอนที่ 4 : เทคนิคเอาตัวรอดจาก ตม.เกาหลี – ช้อปปิ้งย่าน Seomyeon – ดินเนอร์ Lobster ตัวละ 300 กว่าบาท – วิธีเตรียมกระเป๋าลงจากเรือ
• ตอนสุดท้าย : ไม่ต้องรีบมาสนามบิน เปิดให้เชคอินก่อน 2 ชั่วโมงเท่านั้น และเก็บตกรีวิว การบินไทย ฟุกุโอกะ-สุวรรณภูมิ